"ชลบุรี เอฟซี" การรอคอยความสำเร็จ และการต่อสู้ที่ยังไม่จบในฤดูกาลนี้

"เกิดมาเพื่อเป็นแชมป์ เกิดมาเพื่อเป็นแชมป์ ชลบุรี เอฟซี ชลบุรี เอฟซี ชลบุรี รี รี รี รี รี รี ฟุตบอล คลับๆๆๆๆ"

นี่คือเพลงประจำสโมสรชลบุรี เอฟซี ที่อยู่คู่กับทีมฉลามชลมานานแสนนาน และทุกวันนี้มันก็ยังคงเป็นเช่นนั้น เพียงแต่ว่าความหมายของเนื้อเพลง มันไม่เกิดขึ้นจริงมาเป็นเวลานานมากแล้ว ซึ่งแฟนฉลามชลก็ยังรอคอยมันอยู่เช่นนั้นเหมือนกัน

แชมป์สุดท้ายของชลบุรี เอฟซี ต้องย้อนไปกว่า 13-14 ปี กับแชมป์เอฟเอ คัพ 2010 ที่ยังเป็นชื่อเดิมอย่าง "มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ" อยู่เลย ไม่นับแชมป์ถ้วย ก. หรือแชมป์เอฟเอ คัพ ร่วมกับอีก 3 ปี ในฤดูกาล 2016

ถือเป็นการรอคอยที่ยาวนานมากๆ กับทีมอย่างฉลามชล ที่เคยขึ้นชื่อว่าเป็นยอดทีมชั้นนำเบอร์ต้นๆ ของเมืองไทย

โอเคละว่ายุคสมัยเปลี่ยนไป มีทีมอย่างบุรีรัมย์, ทรู แบงค็อก, เมืองทอง, การท่าเรือ, บีจี ปทุม หรือเชียงราย ที่ยกระดับทีมขึ้นมาเป็นทีมหัวแถวและมาเป็นคู่แข่งในการแย่งแชมป์กับชลบุรี

บวกกับปัจจัยเรื่องของเงินในการทำทีม ที่ชลบุรี ก็ไม่ได้เป็นทีมที่มีเงินถุงเงินถังอะไรที่จะจะไปสู้กับบิ๊กทีมเหล่านั้น ทำให้สถานะของชลบุรี จากทีมลุ้นแชมป์ก็ค่อยๆ ลดระดับลงมาเรื่อยๆ

เรื่องการลุ้นแชมป์ไทยลีก เอาตามตรงก็ตัดไปได้เลย เพราะชลบุรี ตอนนี้ไม่ใช่ที่จะเบียดขึ้นไปลุ้นแชมป์ได้ ขณะที่บอลถ้วย จริงๆ ไม่เข้าใครออกใคร ทุกทีมสามารถลุ้นได้ทั้งนั้น แต่ชลบุรี ก็อกหักมาโดยตลอด

พูดถึงฟุตบอลลีก ชลบุรี เคยได้แชมป์หนึ่งครั้งถ้วนเมื่อปี 2007 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่ชลบุรี ประกาศศักดาขึ้นมาเป็นทีมแถวหน้าของวงการ และทำให้พวกเขาเป็นทีมเบอร์หนึ่งของเมืองไทย

แต่นั่นก็เป็นเพียงครั้งเดียวที่พวกเขาได้สัมผัสกับแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศ ซึ่งหลังจากฟุตบอลไทยลีก มีการปรับโครงสร้าง ตั้งเป็นบริษัทไทยลีก เปลี่ยนชื่อมาเป็นไทยพรีเมียร์ลีก และไทยลีกในปัจจุบัน ฉลามชลก็ไม่เคยได้แชมป์อีกเลย ดีที่สุดก็คือการได้รองแชมป์เมื่อปี 2008, 2009,2011, 2012 และ 2014

ในช่วง 4-5 ปีหลัง ผมจำได้ว่าในทุกๆ ปีของงานเปิดตัวสโมสรก่อนเริ่มฤดูกาล ซึ่งทุกทีมจะมีการประกาศเป้าหมายของทีมก่อนเปิดฤดูกาล ทุกครั้งเป้าหมายของชลบุรี "ก็คือการติดท็อปไฟว์ในศึกไทยลีก บวกกับต้องเป็นแชมปืบอลถ้วยให้ได้ 1 รายการเป็นอย่างน้อย"

ซึ่งการติดท็อปไฟว์ไทยลีก อันนี้ไม่น่าห่วง ด้วยขุมกำลังและศักยภาพของชลบุรี มันติด 1 ใน 5 ของไทยลีก ได้อย่างสบายๆ แต่สำหรับการคว้าแชมป์บอลถ้วย พวกเขาก็ยังทำมันไม่ได้สักที 

อย่างในเอฟเอ คัพ พวกเขามีโอกาสเข้าชิงเมื่อฤดูกาล 2020/21 ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ใกล้เคียงสุดๆ แล้วกับการจะเป็นแชมป์เอฟเอ คัพ ให้ได้อีกครั้ง แต่ก็ดันไปแพ้จุดโทษเชียงราย ได้แค่รองแชมป์มาครอง

ขณะที่ลีก คัพ เมื่อฤดูกาลที่แล้วก็ไปถึงรอบรองชนะเลิศ แต่ก็ไปพ่ายพีที ประจวบ อดเข้าชิงอย่างน่าเสียดาย

มาในฤดูกาลนี้ 2022/23 เป้าหมายของฉลามชลยังเหมือนเดิมคือ ท็อปไฟว์ไทยลีก และแชมป์บอลถ้วย ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกฤดูกาลที่พวกเขาทำไม่ได้ตามเป้าหมาย เพราะแชมป์บอลถ้วยก็ตกรอบไปตั้งแต่ไก่โห่ทั้งสองรายการ ด้วยน้ำมือของเอริค ธง ฮาก กุนซือนครปฐม ยูไนเต็ด

แม้ในไทยลีก จะยังเกาะกลุ่มท็อปโฟร์ มีโอกาสจบอันดับ 1 ใน 5 ได้ แต่เป้าหมายของพวกเขาคือต้องเป็นแชมปืบอลถ้วยด้วย มันก็ถือว่าพลาดเป้าไปแล้วในปีนี้

ที่เหลือก็คือต้องทำผลงานให้ดีที่สุดในลีก ถ้ามีอะไรจะมาทำให้เป้าหมายของพวกเขาดีกว่าที่ตั้งไว้ก็คือต้องสูงกว่าท็อปไฟว์ไทยลีกให้ได้ นั่นคือการคว้ารองแชมป์ไทยลีกหรืออันดับ 3 ที่ยังมีลุ้นจะไปเตะเอซีแอลในปีนี้ หากบุรีรัมย์ ได้ดับเบิ้ลแชมป์ หรือบีจีได้แชมปืเอฟเอ คัพ อันดับ 3 ไทยลีกก็ยังมีลุ้น

และถ้าชลบุรี ทำได้อาจจะถือว่าเป็นฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จก็ได้ แม้จะพลาดแชมป์บอลถ้วยไปก็ตาม

ดังนั้นแฟนฉลามชลอย่าเพิ่งหมดหวัง คิดว่าฤดูกาลนี้ไม่มีลุ้นอะไรแล้ว ยังมีอันดับในไทยลีกกับโอกาสไปเตะ ACL 2023 ที่ยังลุ้นได้อยู่

ส่วนเรื่องการจะกลับมาเป็นแชมป์อีกครั้ง ก็ค่อยไปว่ากันใหม่ฤดูกาลหน้า สักวันมันต้องเป็นวันของชลบุรี เอฟซี ดั่งเพลงประจำสโมสรที่ว่า

"เกิดมาเพื่อเป็นแชมป์ เกิดมาเพื่อเป็นแชมป์ ชลบุรี เอฟซี ชลบุรี เอฟซี ชลบุรี รี รี รี รี รี รี ฟุตบอล คลับๆๆๆๆ"